วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2564

มะขามเปรี้ยวยักษ์...มะขามเปียก...เก็บไว้กินเก็บไว้ขายได้ทั้งปี.../

มะขามเปรี้ยวยักษ์...มะขามเปียก...เก็บไว้กินเก็บไว้ขายได้ทั้งปี.../




          ดึกมากแล้ว...รายการทีวีช่องโปรด...จบแล้ว...อีกประเดี๋ยวค่อยนอนรอดูข่าวภาคดึกก่อน...? ความจริงคือ...งานยังไม่เสร็จ 555

ปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือต้นเดือนมีนาคมของทุก ๆ ปี สมาชิกบ้านเราจะมีงาน part time ให้ทำก่อนนอน “แกะมะขาม” คืนหนึ่ง ๆ ประมาณ 4-5 กิโลกรัม มีรายได้เสริมพอเป็นค่าใช้จ่ายประจำวันได้อีกทาง

หลายปีที่แล้ว...ได้กิ่งพันธุ์ “มะขามเปรี้ยวยักษ์ฝักดาบ” มา 5 ต้น จากต้นพันธุ์ที่บ้านเพื่อนร่วมงานจึงนำไปปลูกไว้หลังบ้าน  เว้นระยะห่าง....โดยไม่ได้คิดเผื่อไว้ว่าเมื่อนางโตขึ้น จะแผ่กิ่งก้านสาขาไปอีกหลายเท่าตัว ดังนั้นเมื่อเธอเจริญเติบโตเต็มวัย ระยะห่างที่เว้นจึงไม่พอส่งผลให้ผลผลิตน้อย จึงตัดใจตัดทิ้งไป 2 ต้น ผลผลิตก็ยังคงมีไม่มาก ปีที่แล้ว จึงตัดใจตัดทิ้งไปอีกต้น เหลือเพียง 2 ต้น ได้ผลดีมาก ปีนี้มะขามออกดอกออกผลน่าปลื้มใจ เก็บเกือบเดือนแล้วยังไม่หมด...ปลื้ม ๆ

          มะขามเปรี้ยวยักษ์ มีหลายสายพันธุ์ เราไม่รู้ว่าที่เราปลูกนี้เป็นสายพันธุ์ไหน ลักษณะฝักมีขนาดใหญ่และยาว โค้งงอ เหมือนพระจันทร์เสี้ยว ฝักแบน เนื้อไม่หนา เม็ดในและเนื้อเยื่อติดกันไม่ร่อน เหมือนมะขามพันธุ์พื้นเมือง ปอกเปลือกแล้วผึ่งแดดสักพักให้หมาด ๆ ช่วยให้การแกะเมล็ดง่ายขึ้น ส่วนรสชาตินั้น  เปรี้ยวปรี๊ด ๆ

          นอกจากนี้ในไร่เรา  ยังมี มะขามเปรี้ยวพันธุ์โบราณอีกหลายต้น...ลักษณะฝักกลมเล็ก รูปทรงยาวเนื้อเยอะ แกะง่าย มีรสเปรี้ยว-อมหวาน ปรุงอาหารอร่อย  ปีนี้ทำใจ ได้ผลผลิตน้อย เพราะกระรอกขโมยกินเกือบหมด...กินตั้งแต่เป็นฝักอ่อน กินจนมะขามเป็นฝักแก่และสุกก็ยังขโมยกิน ไม่เกรงอกเกรงใจเจ้าของเค้าปลูกมาตั้งหลายปี ได้แต่นั่งมองใช้หนังสติ๊กไล่ เดี๋ยวเดียวก็มาอีก แย่งกระรอกมาพอได้บ้างปอกเปลือกแกะเมล็ด เก็บไว้กินนาน ๆ ครอบครัวเราชอบทำอาหาร ทุก ๆ เช้า เราต้องใส่บาตรพระที่มาบิณฑบาตหน้าบ้าน เป็นสิริมงคลก่อนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่แต่ละคน ทำแล้วมีความสุขก็ทำต่อไป จร้า...




วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564

โรงเรือนปลูกผัก...ออร์แกรนิค

 ปลูกเอง...กินเอง...ใครจะซื้อก็ขาย นร๊า


สมาชิกในบ้านทุกคนชอบกินผัก...ปลูกผักกินเองมาแต่เล็กแต่น้อย ก็ต้องยอมรับว่าบางช่วงเวลาผลผลิตในไร่ ออกไม่ทันบริโภค หรือบางทีเราก็อยากบริโภคสิ่งที่เราไม่ได้ปลูกหรือสิ่งที่เราปลูกบริโภคทุกวันจนเบื่อ 555 ก็ต้องไปพึ่งพาตลาดสดใกล้บ้าน...เมื่อกลับมาปรุงอาหารสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งมักจะบ่นอยู่เสมอเพราะเธอเป็นผู้ที่ร่างกายไวต่อสารเคมีเป็นพิษ เธอจะผลักอาหารชามนั้นออกจากสำรับกับข้าว และบอกกับทุกคนว่าผักชนิดนี้อย่ากิน “ยาเยอะ” คำว่า “ยา” ของเธอคือยาฆ่าแมลง หรือยาฆ่าวัชพืช ที่ผู้ปลูกใช้ เราก็ได้แต่นั่งมองหน้าเพราะเราอยากกิน บางทีเราก็เถียงขำ ๆ ว่า “กินไปเถอะ..สะสมได้อีกนานยังไม่ตายหรอก” 555

          ผู้แพ้สารเคมีเป็นพิษจึงเอ่ยชวน...งั้นปลูกผัก“ออร์แกนิค” กินกันเองดีกว่าไหม ?

          ดูแลยากนะ...พวกเราไม่เคยปลูก?....“เอาน่าลองดู...ปลูกในกระถางก่อน ไม่ต้องมากข้าง ๆ บ้านนี่แหละ

          เราช่วยกันค้นหาวิธีการปลูกจาก “ยูทูป” ลองผิดลองถูกันหลายเดือนในที่สุด “บ้านเราก็มีผักปลอดสารพิษกิน” เพียงแต่ 4-5 กระถาง เราเก็บกินได้นาน หลายเดือน ผักสด ใบสวย ปลอดสารเคมีเป็นพิษ เก็บกินได้ทันทีเมื่อต้องการ ฟินด์ สุด ๆ จากนั้นคนคิดการใหญ่จึงตามมา...ทำโรงเรือนกัน...??? 555


          น้องชายคนเล็ก...มีความรู้เรื่องการทำโรงเรือนปลูกผัก  จึงอาสาทำให้ เราเพียงซื้อวัสดุให้ และช่วยทำในสิ่งที่ทำได้...ประกอบอาหาร น้ำ หรือเครื่องดื่ม เย็น ๆ เตรียมไว้ให้ โรงเรือนหลังแรกของครอบครัวเราสำเร็จ


พลบค่ำ วันที่ 4 มีนาคม 2564 น้องชายชวนพี่ชายมุงหลังคา กันก่อนหากทำตอนเช้า อากาศร้อน ทำงานลำบาก หลานชายอีกคนผ่านมาจึงช่วยกันอีกแรง เสร็จงานหลังคาประมาณ 1 ทุ่มเศษ หน่วยสนับสนุนกำลังบำรุงยกสำรับกับข้าวมาเสริมแรงคนทำงาน วันนี้มีแกงมะรุม ต้มพะโล้ ผัก น้ำพริก แถมแล้วข้าวโพดข้าวเหนียวต้ม อิ่มหนำสำราญ สวนเสเฮฮากันสักพักก็แยกย้ายกลับบ้าน