"แม่รักษาต้นไม้ในที่ดินส่วนตัวไว้ให้ลูก อนาคตลูกคนไหนจะปลูกบ้าน จะได้มีไม้ใช้ หรือหากจะซ่อมแซมบ้าน หรือทำอะไร จะได้ไม่ต้องไปหาที่ไหน ต่อไปไม้จะหายาก" เป็นคำพูดซ้ำ ๆ ของแม่ ตั้งแต่จำความได้
ที่ดินทำกินของครอบครัว เป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ ย่า ตา ยาย เมื่อมาถึงรุ่นพ่อ แม่ ยังเป็นผืนป่าโปร่ง ยังไม่ได้แผ้วถางเพื่อทำประโยชน์ สมัยเด็กจำได้ดี ป่าจะเป็นแหล่งอาหารสำคัญของครอบครัว หนอไม้ เห็ดโคน ผักหวานป่า หรือผักอื่น ๆ แม้แต่ผลไม้ป่าในสมัยนั้น ก็มีให้เด็ก ๆ เก็บกิน คลายความหิว เพราะสมัยก่อนไม่มีขนมกรุปกรอบ ไม่มีร้านสะดวกซื้อ เหมือนสมัยนี้
เมื่อถึงช่วงเวลาที่ครอบครัว จำเป็นต้องถางป่าเพื่อเพาะปลูก แม่จึงกันพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้เป็นป่าหลังบ้าน เว้นไม้เนื้อแข็งไว้สำหรับก่อสร้าง เช่น มะค่า ไม้แดง ตะคร้อ สมอ และอีกหลาย ๆ ชนิด มาถึงยุคสมัยนี้ที่แม่จากไปนานแล้ว ลูก หลาน ได้ใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง ลูก ปลูกบ้าน ก็ใช้ไม้ที่แม่เว้นไว้ให้นี้แหละ แม้จะรู้สึกเสียดาย ถึงคราวนี้ ลูกจะปลูกป่า คืนแม่แล้วนะ และลูกจะทำป่าเล็ก ๆ หลังบ้านเรา ให้เป็นป่าที่มีประโยชน์ กับครอบครัวเราให้มากที่สุด...
ผืนป่าเล็ก ๆ หลังบ้าน มีกิน มีใช้ มีเหลือขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว
ผักหวานป่า แทรกในไร่ชะอม เพื่อให้เป็นพืชพี่เลี้ยง ณ ตอนนี้สามารถเก็บผลผลิตรับประทานได้แล้ว และเริ่มมีเหลือขายได้บ้างแล้ว
ผักหวานป่า แทรกในป่าเบญจพรรณ ตอนนี้ผักหวานป่า เริ่มเก็บผลผลิตได้บ้างแล้ว
ผักหวานป่า แทรกป่าเบญจพรรณ
โรงเรียนเพาะเห็ด
ล้อมรอบด้วยป่าเบญจพรรณ เป็นอาหารบ้าง เป็นยาบ้าง เป็นพืชเพื่อใช้งานบ้าง
ความมั่นคงระยะยาว ของครอบครัวเรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น