วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บันทึกเกษตรกรมือใหม่

วันนี้บันทึกหลังจากลงมือเพาะเมล็ดพันธ์  ฟักข้าวและชำกิ่งพันธ์ เมื่อวันที่  21 พฤศจิกายน 2553 ล่วงเลยไป 15 วันแล้ว รดน้ำเช้าเย็นทุกวัน พร้อม ๆ กับคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ให้เห็นเลย  มีเพียงต้นคะน้า ที่เพาะพร้อมกัน ตอนนี้แตกยอดอ่อนงอกงามน่าดู ต้องรีบทำแปลงใหม่เพื่อขยายต้นกล้า ไม่ให้แน่นเกินไป
สุดสัปดาห์นี้  มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน เป็นโอกาสที่จะได้ถากถางดงหญ้าค้างหลายปี และวัชพืชต่าง ๆ เพื่อทำแปลงผัก ที่ดินตรงนี้ไม่ได้ทำประโยชน์มานานหลายปีก่อน เคยใช้เลี้ยงไก่เนื้อ และเลิกไปช่วงที่ไข้หวัดนกระบาดจึงประยุกต์โรงเรือนเลี้ยงไก่ เป็นโรงเรือนเพาะเห็ด ก็ใช้ได้ดีทีเดียว ผืนดินตรงนี้ใกล้กับโรงเรือนที่พักคนงาน ครั้งนี้เราลงมือทำเอง ต้องตามเก็บเศษของวัสดุเหลือใช้  ที่คนงานทิ้งเอาไว้ทับทม มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเศษแก้ว ขวดเบียร์ ขวดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เศษกระจก เศษขวดเสปร์น้ำหอม เศษซองผงซักฟอก ยาสระผม ถุงพลาสติก หลอดไฟ กระเบื้องเก่าแตกหัก กระป๋องสี และอื่น ๆ อีกมากมาย ทับถมกันอยู่ในหญ้าและวัชพืช สร้างความยุงยากในการกำจัดและทำความสะอาดมากทีเดียว ทำไปก็คิดในใจว่า เวลาผ่านไปนานกว่า 10 ปี เศษขยะเหล่านี้ไม่ได้ย่อยสลายเลยแม้แต่น้อย หากเอาเศษขยะเหล่านี้ทั่วโลกมากองรวมกันคงสูงราว ๆ ภูเขาลูกใหญ่ ๆ
แล้วฉันจะกำจัดมันอย่างไรดี  เริ่มแรกลากมากองรวมกันใช้หญ้าแห้งเป็นเชื้อเพลิงแล้วจุดไฟเผา พอไฟลุกได้ไม่นานปรากฏว่า มีเสียงปะทุราวระเบิดกัมปนาท พร้อม ๆ กับเศษขยะ และเศษกระเบื้องแตกกระจายไปไกล กว่า 3 เมตร น่าหวาดเสียว ต้องรีบหลบอันตรายมาก มิหนำซ้ำพอไฟมอดแล้ว ยังไม่สามารถกำจัดเศษวัสดุดังกล่าวได้หมด มันกลับกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้เราเก็บอีกรอบ
ฉันนั่งกุมขมับอีกรอบ คราวนี้จะทำอย่างไรกับมัน ฉันขุดหลุมลึกพอประมาณและกวาดเศษวัสดุลงไปนอนก้นหลุมกลบจนมิดชิด คิดในทางขบขัน “นี่อีก 1,500 ปีข้างหน้า หากลูกหลานนักโบราณคดีของฉัน มาขุดพบคงดีใจมากที่พบร่องรอยบรรพบุรุษ เป็นซากข้าวของเครื่องใช้สมัยเรา พวกเขาคงค่อย ๆ บรรจงเก็บอย่างทะนุทนอมไม่ให้มันบุบสลาย แล้วนำไปเก็บไว้ในพิพิธพันธ์ให้เด็ก ๆ ทัศน์ศึกษาแน่ ๆ ไม่น่าเผาเลยเรา หากพวกเขาขุดพบ จะได้เห็นเศษวัสดุที่สภาพยังดี เผลอ ๆ นำไปใช้งานได้อีกด้วย แต่ไม่ต้องห่วงทั่วประเทศยังมีอีกมากมาย คิดอีกทางหนึ่งเศษวัสดุที่พวกเขาค้นพบนี้ อาจเป็นหลักฐานทางธรณีวิทยา ให้พวกเขาทำนายสาเหตุการล่มสลายของโลกในยุคเราก็เป็นไปได้

ระหว่างขุดแปลงปลูกผัก ถากหญ้า รดน้ำพรวนดินไปด้วย ผืนดินบริเวณนั้นมีต้นไม้ยืนต้นตาย 3 ต้น และต้นที่ทำให้มันตายอีก 2 ต้น ฉันเอามะกรูดไปปลูกแทนส้มโอ ที่ตายเพราะถูกกาฝากดูดน้ำเลี้ยง เอาเถาพลูกินกับหมากของแม่ไป จิ้มไว้รอบ ๆ โคนต้นไม่อยากให้มันสูญพันธุ์โตขึ้นมันจะได้อาศัยซากส้มโอเพราะ  ต้นน้อยหน่า แห้ง เอาต้นหญ้านางไปปลูกที่โคนต้น หวังว่าจะได้เอาไว้เก็บใบไปต้มหนอไม้กิน ของชอบเชียวละ แถมยังเป็นยาของพี่สาวยามเมื่อมีอาการออกร้อนวูบวาบ  ตามตัวก็ใช้ใบหญ้านางคั้นน้ำกิน 2-3 วันก็หาย  แถมพี่ชาย เป็นเบาหวาน ยังกินเพื่อลดน้ำตาล ในเลือดได้ด้วย มหัศจรรย์มาก พืชชนิดนี้   โคนต้นแห้งของพืชที่เหลือ เอาแก้วมังกร ไปปลูกหวังให้มันเลื้อยขึ้นไปอาศัย
ขณะนั่งพักเหนื่อย ก็วาดแผนที่ ว่าตรงข้างถนนตามแนวสายไฟจะปลูกแก้วมังกร ให้เป็นแถวได้พันธ์มาจากเมืองกาญจน์  เจ้าของเขาคุยหนักหนาว่าหวานเจี๊ยบ  หัวแปลงท้ายแปลงจะปลูกมะเขือของโปรด หาต้นแค มาปลูกสักต้นแต่จะลองเอาเมล็ดแก่มาปลูกก่อน  พริกหอม มีต้นเก่าอยู่แล้ว 2 ต้น ปลูกพริกชี้ฟ้า และพริกหยวกเพิ่ม ปลูกถั่ว
ทั้งนี้ทั้งนั้น  เมื่อทำแปลงเสร็จแล้ว ต้องรีบทำรั้ว เอาตาข่ายมากั้น ประเดี๋ยวเจ้าตัวร้ายไก่จอมแสบ จะมาคุ้ยเขี่ยเสียหาย รวมทั้งหมาจอมซน จะมาเปิดสนามแข่งมาราธอน เราจะอดกินผักปลอดสารพิษกันพอดี
ส่วนที่ปลูกฟักข้าวนั้น ตั้งใจปลูกต่อจากแปลงผัก และดงรวก ตรงนี้ต้องให้รถไถช่วยพรวนดินให้เพื่อความรวดเร็วและทุ่นแรงงานคน พี่ชายลงมือตัดต้นไผ่ป่าหลังบ้าน เพื่อใช้ต้นทำนั่งร้านให้มันเลื้อยอาศัย ระหว่างต้นจะสลับด้วย มะเขือยาว  พริกชี้ฟ้า  แซมด้วยรักขาวเอาไว้ให้พี่สาวร้อยมาลัย ไปขาย
สวนในฝันหลังบ้านของฉัน  กำลังงอกงามเบ่งบานในใจ แต่จริง ๆ มันจะขึ้นกี่ต้นไม่รู้เหมี่ยนกัน  อิอิ